คำอธิบายรายวิชา
รหัสวิชา
ง23102 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 40
ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
....................................................................................................................................
อธิบายหลักการทำโครงงานที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างชิ้นงานจากจินตนาการหรืองานที่ทำในชีวิตประจำวัน
ตามหลักการทำโครงงานอย่างมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบ
พร้อมทั้งสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสมกับลักษณะงาน
และมีทักษะการเขียนโปรแกรมภาษาพื้นฐาน
โดยใช้กระบวนการการทำงาน กระบวนการสืบค้น กระบวนการปฏิบัติ
กระบวนการคิดวิเคราะห์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า
และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูล การเรียนรู้ การสื่อสาร
การแก้ปัญหา และการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีคุณธรรม
ตัวชี้วัด
ง 3.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4
รวม 4 ตัวชี้วัด
โครงสร้างรายวิชา
ลำดับที่
|
ชื่อหน่วยการเรียนรู้
|
มาตรฐานการเรียนรู้
/ ตัวชี้วัด
|
สาระสำคัญ
|
เวลา
(ชั่วโมง)
|
น้ำหนักคะแนน
|
1
|
หลักการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
|
ง
3.1
ม.3/1
ม.3/4
|
การทำโครงงานที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ต้องทำอย่างเป็นขั้นตอนและนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินการ
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างชิ้นงาน ผู้สร้างต้องสร้างงานตามหลักการทำโครงงาน
มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูล ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ไม่คัดลอกงานผู้อื่น และไม่สร้างความเสียหายต่อผู้อื่น
|
10
|
25
|
2
|
การเขียนโปรแกรม
(1)
|
ง
3.1
ม. 3/2
|
การเขียนโปรแกรมให้ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพนั้น
จะต้องมีการวางแผนและการออกแบบโปรแกรม
ดังนั้นการออกแบบโครงสร้างโปรแกรมจึงถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
|
10
|
25
|
3
|
การเขียนโปรแกรม
(2)
|
ง
3.1
ม. 3/2
|
โปรแกรม Microsoft
Visual Studio 2008
เป็นชุดพัฒนาโปรแกรมที่มีความหลากหลาย สามารถเขียนโปรแกรมได้หลายภาษา อีกทั้ง ยังมีการทำงานและการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก สามารถเรียนรู้และนำมาสร้างเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ต้องการได้ง่าย |
12
|
25
|
4
|
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองาน
|
ง
3.1
ม. 3/3
|
การนำเสนองานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จะต้องเลือกใช้ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ดิจิทัลให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เพื่อสื่อสารไปยัง
ผู้รับสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
8
|
25
|